การวิเคราะห์ BTC ของกลุ่มนักเล่นหุ้น มุมมองส่วนตัว ของคนในกลุ่ม
จะเป็นจริงอย่างที่เขาพูดหรือไม่คอยดูกันต่อไป
อย่าไปคาดหวังว่า BTC จะพุ่งไปมากมาย เป็นล้านดอล เพราะการพุ่งมาจาก 1 ดอล จนถึงตอนนี้ คือ มันจบรอบจรวดแล้ว (มันได้ทำหน้าที่ของมันเสร็จแล้ว คือ ทำให้คน 5% ที่ซื้อตั้งแต่ต้นน้ำ และคนที่ short ที่ยอด 6หมื่น รวย)
ได้ประมาณนี้แหละ ให้สังเกตว่า กราฟบิตคอยท์ตอนนี้ เป็นแบบเดียวกับ DJI, SP500 แล้ว แสดงว่า ถ้า BTC ไม่ตาย กราฟก็วนๆ ขึ้นๆ ลงๆ แบบเดียวกับดัชนีหลักเหล่านี้
ที่ระดับความสัมพันธ์
DJI - 30000
BTC - 20000
ฉะนั้น เมื่อใดที่ DJI พุ่งเต็มสูบ (เมื่อเศรษฐกิจโลกฟื้นรอบใหญ่ อาจจะอีก 5-10 ปี ) BTC ก็พุ่งไปได้เต็มที่ ที่ 40000 และตรงนั้น จะหลุดดอยหรือ ไม่หลุดดอย ก็ต้องขายออก (อันนี้บอกลุงไมเคิลนะ)
ส่วนการเทรด ก็เทรดไปตาม cycle แบบเดียวกับ ดัชนีหุ้น เพียงแต่กราฟของ BTC จะดูง่ายกว่า เพราะมี noise น้อยกว่า ตามภาพ
ความคิดเห็น
ทำไม กราฟ บิตคอยน์ สัมพันธ์ กะ SP500 ราวกะว่าใช้ bot คุม SP500 และ Btc ชุดเดียวกันมาจากโปรแกรมเมอร์🧐
ผมก็คิดแต่ไม่อยากแสดงความคิดเห็นเพราะคนเรามัก Bias ไปตามสถานะที่ตัวเองถือครับ
ทุกวันนี้เล่นแต่เก็งกำไรแบบ Scalping ทีละพันสองพันหาความรู้ไปเรื่อยๆ
เก็บไว้ดูคนเดียว เถอะครับ
บางคนบอก ไม่ขายไม่ขาดทุน ซื้อ BTC ตอน พย.64 ราคา 1.6ล้าน รอไปเรื่อยๆ จนกว่าราคาจะกลับไปที่ต้นทุน(รอมาเกือบปีแล้ว เงินทุนจม ดอกเบี้ยก็ไม่ได้)
ชึ้นอยู่กับยูสเคสมากกว่าครับ ปัจจุบัน BTC มันไม่รู้จะเอาไปทำอะไรนอกจาก เก็งกำไร ถ้าในอนาคตสามารถมียูสเคสที่ใช้ประโยชน์ได้จริง เป็นที่ยอมรับมากขึ้น คนก็ต้องการมาขึ้น ก็อาจ ATH อีกก็ได้ ในทางตรงข้ามก็อาจเป็นไปได้ถ้ามันดูไม่ได้มีประโยชน์อะไร และถ้าสักวันนึงเกิดรู้ว่า ใครคือ SN ตัวจริงและถือครองมากขนาดไหน และมันอาจไม่ใช่DCF อย่างที่ตั้งปณิธานไว้มันก็อาจจะพังจริงๆ
คนมักโลภเสมอ คนที่เคยได้แล้วจะอยากได้อีกไม่จบไม่สิ้น แค่มองให้ออกว่าควรลงทุนเวลาไหน
ตราบใดระบบการทำงานbtcไม่เปลี่ยนแปลง รัฐบาล ธนาคารยังพิมเงินไม่หยุด ใช้อำนาจตามอำเภอใจ btcจะลงหรือขึ้นสุดแค่ไหนผมก็จะออมครับ
ทุกเหรียญในโลกมีสูตรเดียว
Price=MarketCap÷CirculatingSupply
อะไรๆก็เป็นไปได้หมดจะไปสวรรค์หรือลงนรกใครจะรู้จะขึ้นจะลงคือความเชื่อของคนล้วนๆครับถ้าคนในโลกส่วนใหญ่ให้ค่ามันก็ขึ้นถ้าไม่เอาเเล้วมันก็ลง
อย่ามองภาพแค่ BTC จะดึงดูดเม็ดเงินจาก fiat ที่เป็นแค่ตัวเลข ต้องมองภาพว่ามันดูดซับความมั่งคั่งจากทุกสิ่งเพราะมันคือ money
เช็ค market cap ก่อนลูก
งั้นลองเทียบ mcap ทุเรียนกับ อะโวกาโด้ ครับ
ใช่ว่า คนทั้งโลก ต้องมาซื้อมากินทุเรียน
แต่ก็เข้าใจแหละว่า มันเป็นเหตุผลเดียวที่พวก maxi มีไว้เป็นที่พึ่ง
ขอวางบ้องกัญชาก่อนนะครับ
อีก ห้า ถึง สืบปีข้างหน้า หากสภาพคล่องมา BTC มีโอกาสไปที่ US$ 150,000 ถึง US$ 215,000 ครับ
ขอกลับไปเคลิ้มต่อหละ
เอาไปเปรียบเทียบกับทองคำได้ไง ทองคำคนรู้จักทั้งโลก โดยเฉพาะคนเอเซียครั้งหนึ่งในชีวิตต้องเคยซื้อหรือถือทองคำบ้างล่ะ ในขณะที่บิทคอย คนรู้จักยังไม่ถึง 15 เปอร์เซ็นด้วยซ้ำ มันจะอิ่มตัวได้ไง
ไว้วันไหนที่คนใกล้ตัวแต่งงานแล้วให้สินสอดเป็นบิทคอย วันนั้นค่อยมาพูดเรื่องอิ่มตัว
ถ้ามั่นใจขนาดนี้ จะทำให้ติดกับดักความคิดตัวเอง มองไม่เห็นแสงสว่างในอนาคตเลยครับ อย่าลืมว่ามันคือ สุดยอดเทคโนโลยีกำลังมาแรงมาก อย่าลืม
ถ้าคุณไม่มีทางหยุดเงินเฟ้อได้ คุณก็ไม่มีทางหยุดบิตคอยได้เช่นกัน
เป็นความเห็นที่น่าสนใจครับ บิทคอยน์อาจจะเหมือนทองคําทุกวันนี้ ที่รุ่นคุณปู่คุณย่า เขาได้รับผลตอบแทนเต็มอิ่มเรียบร้อย จากหลักร้อย ขึ้นมาเป็นหลักหมื่นบาท
แต่มันก็วนเวียนอยู่แค่นั้นแล้ว 20000-30000 บาท ยากจะได้เห็นราคาหลักแสน
ปล. ผมไม่ได้มีอคติ หรือ FUD แต่อย่างใดนะ ผมก็เก็บบิทคอยน์ แต่ก็มองว่าในระยะยาว มูลค่าขึ้นไป 3-4 เท่าก็พอใจละ
ขึ้นไป 40,000 us
ผมว่ามันก็สมเหตสมผลดี
แต่อนาคตมันไม่แน่นอน
มันอาจจะไปถึง หรือไม่ถึง
ตอนนี้นั่งทับมืออย่างเดียว
ไม่ซื้ออะไรทั้งสิ้น
รอขาขึ้น ซึ่งไม่รู้ว่าต้องรออีกนานแค่ไหน
ส่วนตาไมเคิลนั้น ช่างแกเถอะ
อย่าให้แกพอตแตกก็พอ
ถ้าระดับนั้นแตก
ได้เลิกเล่นคริปโตจริง 5555
ถ้าแนบรูปช๊อตsellตั้งแต่2ล้านจะได้เครดิตอีกหลายเท่าเลยครับ
ทำไมไม่วิเคราะห์ก่อนหน้านี้ตอนที่ BTC สองล้าน