เป็นสาระดีๆที่เอามาแชร์ข้อมูลกัน
ว่าด้วยเรื่องที่จะเอา BTC มาแทนสกุลเงิน Dollar ในอนาคต
จะมีทางเป็นไปได้จริงๆไหมในรูปแบบไหนในเมื่อความน่ากลัวของ BTC คือการควบคุมราคากลางของตลาดไม่ได้ (ขึ้นอยู่กับความต้องการในตลาด)
อันนี้แค่แชร์ความคิดและอยากถามความคิดของคนในกลุ่ม ว่าคิดยังไง กับประโยคนี้เห็นคุยกันมาจะ 3-4 ปีแล้วก็ไม่เกิดขึ้นสักที โดยส่วนตัวยังมองไม่ออกว่าจะเป็นที่ยอมรับยังไงถ้า ธนาคารโลกควบคุมราคากลางไม่ได้
ต้องย้อนถึงข้อตกลงของคนที่จะยอมรับสินทรัพย์ใดๆที่มาเป็นตัวกลางของอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างประเทสหรือโลก จะเงิน ทองคำ อัตราการผันผวนต้องไม่มาก จึงสามารถใช้กับภาคธุรกิจ ภาคเศรฐกิจ และเป็นวงกว้างได้ ยอมรับทั่วโลก
อันนี้ก็แค่รู้พื้นฐานจากที่ศึกษามาบ้าง แค่อยากมาแชร์แนวคิดกันเฉยๆ
เพราะปัจจัยพวกนี้มันจะสามารถบอกมูลค่าที่ควรจะเป็น ของสินทรัพย์ที่แท้จริงได้
มากกว่าราคา ขึ้นๆลงๆ ที่มาจาก
ค่าอุปสงค์และอุปทาน (Demand VS Supply) ในตลาดเป็นหลัก
ผมขอเปรียบเทียบ ข้อดี ข้อเสีย BTC VS Dollar
ข้อดี
BTC มีอิสระ ไม่ยึดติด หรืออ้างอิงกับสินทรัพย์ใดๆ มีมูลค้าเกิดขึ้นจากความต้องการของตลาดในวงแคบๆ เฉพาะกลุ่ม
Dollar อ้างอิงกับราคา ทองคำ และภาคธุรกิจ อุตสาหกรรม ความต้องการในวงกว้างทั่วโลก
ผมมองว่า Dollar ดีกว่า ควบคุมได้มีราคากลาง
BTC สร้างจำนวนจำกัด หมดแล้วหมดเลย (แต่ไม่รู้ใครการันตีระบบได้ เพราะเคยโดนแฮ็กไปรอบหนึ่งแล้วถ้ายังจำกันได้ การแฮ็กได้คือ อนาคตถ้ามี แฮ็กเก้อเก่งๆก็สามารถสร้างเพิ่ม (เหมือนเงินปลอม) ก็มีโอกาสทำได้ )
Dollar ผลิตได้เรื่อยๆ ทำให้ยิ่งผลิตเพิ่ม ทำให้ค่าเงินก็ต่ำลงปีละ 2-3% แต่การผลิตต้อง อ้างอิงสินทรัพย์ที่มีเป็น ทองคำที่มีในคงคลัง รัฐบาล (อันนี้ตามที่เขาเคยนำเสนอนะผมก็ฟังมาคร่าวๆผิดถูกขออภัย)จึงอยู่ในการควบคุมของธนาคารกลาง
อันนี้ผมให้ BTC เด่นกว่าในเรื่อง มีจำนวนจำกัด ให้เครดิตรแค่ตอนนี้ ถ้าอนาคตมีแฮ็กเก้อที่เก่งเกิดขึ้น เครดิตรอาจไม่มี
หมายเหตุ: ทุกๆ 3 วินาที โลกเราจะมี แฮ็กเก้อ พยายามเจาะเข้าระบบ 100,000 ครั้ง ที่ผมเคยอ่านเจอและรับรู้มา คิดว่า 1 ในนั้น ตอนนี้ 50% น่าจะระบบ BTC นี่แหละ ตัวเป้งเพราะมีมูลค่าในการแฮ็กถ้าได้มันมูลค่ามหาศาล
การใช้งาน
BTC ใช้ได้ในวงแคบ ราคาวิ่งตาม อัตราเก็งกำไร ความต้องการตลาด ไม่มีการเสียภาษี เสียเฉพาะค่าธรรมเนียมซื้อขายเหรียญ ให้เจ้าของระบบ ไม่ส่งถึงรัฐบาล ไม่ได้ส่งเสริมภาคธุรกิจ ภาคเศรฐกิจในประเทส ธนาคารเลยมองสินทรัพย์อันตราย โดนโจมตีว่าไม่มีค่า และพยายามเข้ามาควบคุมระบบ
Dollar ใช้ในทุกภาคส่วน ภาคเศรฐกิจ ภาคธุรกิจ เงินทุนระหว่างประเทส ยอมรับทั่วโลก มีการควบคุม อัตราค่าเงินอย่างชัดเจน และมีสินทรัพย์อ้างอิงในการผลิตเพิ่มอย่างชัดเจน (ชัดเจนจริงเปล่าไม่รู้) มีการเสียภาษีภาคธุรกิจ ผ่านธนาคารกลาง ควบคุมราคา เป็นที่ยอมรับทั่วโลก (ขนาดผลิตมาอัดฉีดหุ้นในระบบเพื่อพยุงเศรฐกิจยังทำได้ค่าเงินไม่ลงเลย)
ราคาการ ขึ้น ลง Swing
BTC Swing ขึ้นลง +/- เกิน 100% และระยะสั่นไม่มั่นคง มีโอกาส กำไร และขาดทุน ของมูลค่าจริง ตามความต้องการ ของตลาด ควบคุมราคาไม่ได้ ธนาคารโลกจึงมอง เป็น สินทรัพย์ อันตราย ไม่มีราคากลาง ราคาขึ้นกับ สภาวะตลาด ผันผวนตามความต้องการ ของความโลภ ของคน 2 กลุ่ม ไม่มีความรู้เรื่องเศรฐกิจ มากพอ อาจขึ้นลงตลอด 1 วัน อาจ +/- 50% หรือ 100-200% ของราคาในตลาดระยะสั้นๆ ก่อความเสียหายให้ประเทส
มากกว่ากำไร ไม่สามารถใช้อ้างอิงเพื่อ ส่งเสริมภาคธุรกิจ และบริหารได้
Dollar Swing น้อย อัตราค่าเงินเต็มที่ +/- 4-6%
แต่การปรับฐานแต่ละครั้งใช้เวลาเป็นเดือนหรือ ไตรมาส และราคาปรับฐาน ขึ้นลงกับภาค ธุรกิจ เศรฐกิจ โดยตรง ของประเทส โอกาสปรับฐาน ต้องมีการประชุม ออกมติกันชัดเจน มีร่างนโยบาย และเห็นชอบจากสมาชิคผู้มีความสามารถอ่านภาวะเศรฐกิจระยะยาวออก และการปรับอัตราดอกเบี้ย และส่งผลถึงค่าเงิน ได้ ในกรณี รุนแรง
ทาง ธนาคารโลกจริงมองเป็น สินทรัพย์ที่ ปลอดภัย